วันจันทร์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2552

สงครามไซเบอร์

สงครามไซเบอร์

สัปดาห์ที่แล้วเว็บไซต์สำคัญจำนวนมาก ในสหรัฐและเกาหลีใต้ทั้งของรัฐบาลและภาคเอกชน ถูกแฮกเกอร์ลึกลับโจมตีหนัก จนล่มระนาว 4 วันติดต่อกัน ตั้งแต่วันอังคารจนถึงคืนวันศุกร์ พร้อมกับเสียงโจษขาน งานนี้ฝีมือใครกันแน่

เฉพาะในเกาหลีใต้ คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลถูกโจมตี 438 ราย โดยในบรรดาเป้าหมายของทางการ รวมถึงเว็บไซต์ของทำเนียบบลู เฮาส์ หรือทำเนียบประธานาธิบดีในกรุงโซล แต่ข่าวไม่ระบุว่าโจมตีสำเร็จหรือไม่ เช่นเดียวกับทำเนียบขาว และกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ ที่ตกเป็นเป้าหมายในคราวเดียวกันนี้

ตอน แรก เท่าที่มองจากผู้ที่ตกเป็นเป้าหมาย ทุกความสงสัยต่างพุ่งไปที่เกาหลีเหนือ เนื่องจากกำลังเกิดความขัดแย้งกันอยู่กับเกาหลีใต้และสหรัฐ ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์ตั้งข้อสังเกตว่า อาจไม่ใช่โสมแดง น่าจะเป็นฝีมือของ ?สายลับเศรษฐกิจ? หรือพวกแฮกเกอร์ที่ชอบสร้างความวุ่นวายแก่สังคมมากกว่า

ถึงขณะ นี้ ข้อสงสัยแรกเริ่มมีน้ำหนักมากขึ้น โดยหนังสือพิมพ์จุงอัง อิลโบ รายวันยักษ์ใหญ่ของเกาหลีใต้ รายงานในฉบับวันเสาร์ โดยอ้างแหล่งข่าวใกล้ชิดการประชุมลับระหว่างคณะกรรมาธิการความมั่นคงของ รัฐสภา กับสำนักข่าวกรองแห่งชาติ (เอ็นไอเอส) เมื่อไม่กี่วันก่อน ซึ่งฝ่ายหลังเป็นผู้ให้ข้อมูล ยืนยันว่างานนี้เป็นฝีมือของกองทัพเกาหลีเหนือ

เป็นไปตามที่โสมแดงคุยโม้เอาไว้เมื่อเดือนที่แล้วว่า พร้อมเต็มที่ที่จะทำสงครามไฮเทคทุกรูปแบบ

ตาม ที่หน่วยข่าวกรองกลางเกาหลีใต้สืบเสาะมา สถาบันวิจัยแห่งหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงกองทัพประชาชนเกาหลีเหนือ ได้รับคำสั่งให้ ?ทำลายเครือข่ายการสื่อสารหุ่นเชิดของเกาหลีใต้ในทันที?

สถาบัน วิจัยที่ว่านี้รู้จักกันในชื่อ ?ห้องแล็บ 110? เป็นศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์ ซึ่งนายคิม จอง-อิล ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ ก่อตั้งขึ้นมานานแล้ว โดยทำหน้าที่ล้วงหรือทำลายฐานข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตองค์กรหรือหน่วยงานของ ประเทศศัตรู

ส่วนกระทรวงกองทัพประชาชนก็คือ กระทรวงกลาโหมของเกาหลีเหนือ

อย่าง ไรก็ตาม เอ็นไอเอสยังไม่ฟังธงร้อยเปอร์เซ็นต์ เพียงแค่เชื่อว่า ?มีความเป็นไปได้สูงมาก? เมื่อพิเคราะห์จากพยานหลักฐาน ต่าง ๆ แต่เชื่อว่าอีกไม่นานก็จะสรุปได้แน่นอน

ส่วนสำนักข่าวยอนฮัพของ ทางการเกาหลีใต้ รายงาน ในทำนองเดียวกัน เอ็นไอเอสได้รับ เอกสารจากเกาหลีเหนือ ระบุว่า กองทัพเกาหลีเหนือมีคำสั่งไปยังห้องแล็บ 110 เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. ให้ระดมเซียนคอมพิวเตอร์ของสถาบัน ดำเนินการโจมตีทางอินเทอร์เน็ตครั้งนี้

ด้านคณะกรรมการการสื่อ สารเกาหลีใต้ แถลงว่า ตรวจพบและบล็อกไอพีที่มีที่อยู่ ใน 5 ประเทศ ที่ถูกใช้เป็นตัวปล่อยไวรัสคอม พิวเตอร์โจมตีจนเว็บไซต์ล่มกันระนาว โดยเริ่มในสหรัฐเป็นอันดับแรก

ไอพีใน 5 ประเทศที่ว่านี้ ประกอบ ด้วยออสเตรีย จอร์เจีย เยอรมนี เกาหลีใต้ และสหรัฐ

เดือน พ.ค. ที่ผ่านมา หนังสือพิมพ์โชซุน อิลโบ อีกหนึ่งยักษ์ใหญ่รายงานของ เกาหลีใต้รายงาน เกาหลีเหนือ เตรียมเปิดสงคราม ทางอินเทอร์เน็ต หาทางเจาะล้วงเครือข่ายกองทัพอเมริกาและเกาหลีใต้ เพื่อรวบรวมข้อมูล ลับ และขัดขวางระบบ โดยห้องแล็บ 110 มี แฮกเกอร์ระดับเซียน ประจำการอยู่ประมาณ 500-1,000 คน

ขณะที่เขียนทางการเกาหลีเหนือ ยังนิ่งเฉย ไม่ออกมาตอบรับหรือปฏิเสธรายงานของสื่อฝั่งใต้ ซึ่งหากเทียบเคียงกับกรณีคล้ายคลึงกันหลายครั้งก่อนหน้านี้ หมายถึงการยอมรับโดยนัย ตามสไตล์ของเปียงยาง.

Credit http://www.mediathai.net/module/newsdesk/newsdesk_subcat.php?board_id=50017&cat_id=5

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น